TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2555/10/19

1.เที่ยวเขาเขียว(Khao Kheow Open Zoo) พักบนยอดเขา





วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2555 เวลา 07.15 น.
 ออกเดินทางไปกับสายการบินประจำครอบครัว(airasia) ซึ่งคุณป๋าจองตั๋วโปรฯล่วงหน้ามา 1ปี (ถูกที่สุด) และเป็นครั้งแรกที่ airasia ย้ายมาลงที่ดอนเมือง มาถึงสนามบินหาดใหญ่ แม่ตุ๊กเตรียมอาหารกล่องมื้อเช้ามาให้มะปราง(เช่นเคย) การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นถึงดอนเมืองตรงเวลา
 

มาถึงประมาณ 10:30 น. เดินไปรับรถ(คุณป๋าจองรถไว้กับ Hertz) แต่ต้องรอร่วมครึ่ง ชม.เพราะมีเจ้าหน้าที่คนเดียวติดลูกค้าอีกคน  เธอบอกว่าพนักงานไปสัมมนากันหมดเหลืออยู่คนเดียว คุณป๋าก็ไม่ว่าอะไร(ยืนรอจนเมื่อย) พอตอนรับรถ เจ้าหน้าที่เลยอัพเกรดรถจาก subcompact(Vios, Jazz) เป็น Altis


หลังจากนั้นก็เริ่มเดินทางไปชลบุรีโดยใช้ GPS (แต่ GPS ให้ขึ้นทางด่วนไปลงดินแดงซึ่งคุณป๋าไม่ชอบ) เลี้ยวเข้ารามอินทรากันอย่างงงๆ จนเข้าสู่ทางกาญจนาภิเษก(ทางหลวงหมายเลข 9) แล้วเข้า motor way(ทางหลวงหมายเลข 7) แยกซ้ายตามเส้น 3144 มาถึงสวนสัตว์เปิดเขาเขียวประมาณบ่ายโมง
 ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 - 18.00 น.โทร.038-318-444




คุณป๋าจองห้องพักของสวนสัตว์ไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน  
การจองก็โทรไปจองที่สวนสัตว์ตามเวปไซต์นี้ http://www.kkopenzoo.com/ แล้วก็โอนเงิน โทรแจ้งว่าโอนเงินแล้วแค่นี้เอง ไม่มีหลักฐานตอบรับจากสวนสัตว์เลย คุณป๋าก็ยังหวั่นใจว่ามันจะมีปัญหามั้ย? พอขับไปถึงทางเข้า จุดจำหน่ายบัตร(Booth Ticket) ก็บอกพนักงานเก็บค่าตั๋วที่ประตูว่า"จองห้องพักแล้ว" เขาก็ให้เข้ามาไม่ต้องจ่ายเงินอะไรเลยค่ะ


 ไปแวะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(information)ด้านใน รับใบเสร็จ ตั๋วอาหาร ตั๋วอาฟเตอร์ดาร์ค
 (เจ้าหน้าที่บริการดี น่ารักมากๆ..ประทับใจค่ะ)




เดินเล่น-เก็บภาพที่ด้านหน้า เข้าห้องน้ำ ซื้อขนม,น้ำดื่มที่มินิมาร์ทกันก่อน
ตรงนี้มีบริการ FREE-WIFI ด้วยค่ะ



ตะลุยชมสัตว์ตามแผนที่เลยค่ะ ที่นี่มีรถกอล์ฟ(ลดภาวะโลกร้อน)ให้เช่าด้วยนะคะ 
แต่พวกเราต้องเข้าไปพักด้านในก็เลยขับรถยนต์ไปดีกว่าไม่ต้องย้อนมาคืนรถด้านหน้า



กลุ่มนกฟลามิงโก้(Flamingo)



Gibbon Park



มีชะนีอยู่หลายตัวค่ะ ดูขนนุ่มน่ากอดมาก





สวนละมั่ง(Eld's Deer Park)




บนพื้นที่ที่เป็นสนามหญ้ากว่า 3 ไร่  ในส่วนแสดงละมั่งได้จัดบรรยากาศของสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น 
มีที่นั่งพักผ่อนของนักท่องเที่ยว  ละมั่ง(กวาง)เยอะมากๆๆ นอนเล่นกันอย่างสบายใจ




จุดเด่นของส่วนแสดงละมั่งนี้คือ กิจกรรมการให้อาหารสัตว์ที่สวนสัตว์มีบริการอาหารสัตว์ไว้จำหน่าย
เพื่อนำไปเลี้ยงละมั่ง พร้อมกับนักเที่ยวจะสามารถถ่ายรูปกับละมั่งได้อย่างใกล้ชิด
ถั่วฝักยาวขาย กำละ 20 บาท... มะปรางมีความสุขเหลือเกิน..





มะปรางเดินป้อนอาหารไปรอบสวนเลยค่ะ




จัดเป็นส่วนแสดงที่ติดอันดับ1 ใน 10 ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวทุกคนที่มาไม่ควรพลาดสวนละมั่งนะคะ




ไปดูฮิปโปต่อค่ะ(Hippopotamus)






อย่าลืมซื้ออาหารให้ฮิปโปนะคะ มันจะอ้าปากกว้างสุดๆ(เสียวสยองมาก) รอคนโยนอาหารลงไป






สมาชิกใหม่ "ลูกฮิปโปแคระ"(Pygmy Hippopotamus)




เก้งเผือก




ไปดูเพนกวินกันต่อค่ะ(Penguin)




ด้านหน้าจะมีแพะ-แกะ ยืนโชว์ตัวอยู่หลายตัว แวะให้อาหารก่อนค่ะ




มีกรงนกสีสวยๆ




รอชมพาเหรดเพนกวิน(Penguin Parade) เวลา 14:30 น. ชมฟรีค่ะ




มาแล้วค่ะ...เดินเต๊าะแต๊ะเรียงแถวกันน่ารักมากๆ






ให้อาหาร(ปลา) นกเพนกวิน ชามละ 20 บ.ค่ะ





หมีขอ..นอนหลับสนิทบนบ้านหลังน้อย



ส่วนแสดงสัตว์แอฟริกัน ซาวันน่า(African Savanna) ฝูงยีราฟ  ม้าลาย นกกระจอกเทศ แรดขาว
 ออริกซ์ สปริงบอก อิมพาล่า เบสบอก ส่วนแสดงแห่งนี้มีพื้นที่ 5 ไร่ มีคูแห้งล้อมรอบ




สามารถสัมผัสสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดด้วยกิจกรรรมการให้อาหารสัตว์



เป็นส่วนแสดงที่มีการออกแบบตามลักษณะภูมิศาสตร์สัตว์ป่า (Zoo Geographic Theme )
 คือการจัดแสดงสัตว์ตามถิ่นกำเนิด เน้นการจัดสภาพแวดล้อมและสิ่งประกอบให้เหมือนท้องถิ่นนั้นๆมีการเลี้ยงสัตว์หลายชนิดอยู่ในส่วนแสดงเดียวกัน



Zoo Education







เมียร์แคท (Meerkat) ขนาดลำตัวเล็ก น้ำหนักประมาณ 1 กก. มีขนสั้นสีน้ำตาล มีขนเป็นแนวเส้นขนานพาดข้ามหลัง อาศัยและหาอาหารในโพรงดินที่ขุดขึ้น โดยอาหารได้แก่ แมลงชนิดต่าง ๆ ยังสู้และกินสัตว์มีพิษต่างๆได้อีกด้วย




มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่บางครั้งอาจมีสมาชิกถึง 30 ตัว  ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบยืนชะเง้อคอ เพื่อตรวจดูและดมกลิ่นในบริเวณรอบ ๆถือว่าเป็นสัตว์มีประสาทสัมผัสและการระแวดระวังภัยที่ดีมาก โดยเฉพาะเรื่องการรับฟังเสียงจะสามารถได้ยินเสียงในรัศมีถึง 50 เมตร





หมาจิ้งจอกหูค้างคาว (Bat-eared fox)


มีจุดเด่นอยู่ที่ใบหูที่ยาวใหญ่ถึง 13 ซม. รูปร่างคล้ายค้างคาว ทำให้มีประสาทการรับฟังอย่างดีเยี่ยมจนสามารถฟังได้แม้กระทั่งเสียงคลานของแมลง




ลูกนกกระจอกเทศ+ไข่(Ostrich)




ให้อาหารนกกระจอกเทศได้ค่ะ มาเสนอหน้ารออาหารกันแล้ว..




ให้อาหารแรดขาว (White Rhino) อ้าปากรอหญ้าอยู่แล้ว เชื่องมากๆค่ะ จับตัว-ลูบหัวได้ตามสบาย






แวะดูฟลามิงโก้



เข้าไปนั่งดู,ให้อาหารและถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ







กรงนกใหญ่(Bird Aviary)เปิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2526 เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์นกของไทย
และต่างประเทศ ให้เที่ยวชมและศึกษาหาความรู้




ภายในพื้นที่ 5 ไร่ของกรงนกใหญ่ เป็นลักษณะของการจัดแสดงสัตว์แบบสวนสัตว์เปิด ที่ได้มีการจัดสภาพแวดล้อมอย่างเป็นธรรมชาติ







ถ่ายรูปกับนกอินทรีก็ได้นะคะ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล(แต่เรากลัวเล็บมัน..ขออยู่ห่างๆดีกว่า)




มีน้ำตก ลำธารและสระน้ำ ต้นไม้นานาพันธุ์ พร้อมด้วยการจัดแสดงนกจำนวนกว่า 80 ชนิด 
ทั้งนกเป็ดน้ำ นกกระสา ไก่ฟ้า นกยาง นกกินแมลง นกที่มีเสียงไพเราะ รวมทั้งสัตว์เลี้อยคลานและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก อาทิเช่น เต่าภูเขาและกระจง





มะปรางชอบนกแก้วตัวนี้มากๆ มันคอยมากินอาหารจากมือ..เชื่องมาก






มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ทอดผ่านลำธารแมกไม้ใหญ่น้อยที่ร่มรื่น ความยาว 800 เมตร จัดเป็นส่วนแสดงที่สมบูรณ์แบบมีการจัดการดูแลเลี้ยงสัตว์โดยเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการด้านปักษีวิทยา
ทำให้สัตว์มีชีวิตอย่างเป็นสุขและยังมีความพร้อมต่อการขยายพันธุ์ของสัตว์ได้เป็นอย่างดี



แกะภูเขา(Barbary Sheep)



สวนสัตว์เปิดเขาเขียวได้รับจากสาธารณรัฐเชคตั้งแต่ 4 พ.ย. 2546 อยู่ตามภูเขาที่แห้งแล้ง 
มีขนแผงคอยาวนุ่ม มีขนหนาที่คอ หน้าอก ส่วนบนของขาหน้า มีเขาขนาดใหญ่




วัวแดง(Banteng)  กระทิง (Guar)



ยืนอยู่คู่กันสองตัว รูปร่างและหน้าตาคล้ายกันมาก แต่คนละสี




ตอนนี้เวลาประมาณ 16:00 น.คุณป๋าเริ่มหน้ามุ่ยเพราะทั้งร้อนและเหนื่อย  ก็เลยสิ้นสุดการชมสัตว์เพียงแค่นี้ คุณป๋าขับรถพาขึ้นไปที่ศูนย์(ที่พักของเราคืนนี้)  ขับมาจนสุดทางจะเห็นแคมปิ้งของ เอสตาเต้(es-ta-te)ก่อน แต่ที่พักของศูนย์ฯต้องขับขึ้นเขาไปอีกประมาณ 2 กม.ทางค่อนข้างชันต้องขับช้าๆ แต่ก็คุ้มเพราะวิวข้างทางสวยมากๆ



ถึงแล้วค่ะ ที่พัก..อยู่บนยอดเขาเลยอากาศดีมาก-เงียบสงบ
คุณป๋าจองห้องพักไว้เป็นห้อง VIP เพราะเป็นห้องชนิดเดียวที่มีห้องน้ำส่วนตัว
ส่วนห้องอื่นต้องใช้ห้องน้ำรวม (เอสตาเต้ ก็เป็นห้องน้ำรวม) ราคาทั้งหมดรวม 3 คน 2700 บาท
ซึ่งราคานี้รวม ค่าตั๋วเข้าชมสวนสัตว์  อาหารเย็น อาหารเช้า  ค่าตั๋วชม After Dark




พอไปถึงเจ้าหน้าที่มองหน้าปุ๊บก็ตะโกนบอกกันว่าเป็นแขกห้องวีไอพี ให้เด็กมาจัดการเปิดห้อง ขนของยกกระเป๋าจากรถ( บริการแบบโรงแรมห้าดาวเลยค่ะ) คุณป๋าชมตลอด ประทับใจมากๆ




ภายในห้องกว้างดีค่ะ เตียงใหญ่(นอน 3 คนได้เลย) ผ้าปูสะอาด มีที่นอนเสริมให้ด้วย ทีวีจอแบน โซฟา แอร์ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็น น้ำดื่ม 3 ขวด ห้องน้ำก็สะอาด(เหมือนเพิ่งทำใหม่)
 มีน้ำอุ่น ฝักบัว สบู่ แชมพูครบ สายชำระ ผ้าขนหนู



ประมาณ 17:00 น. อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นกันค่ะ
ที่พักของเราเรียกว่า"ที่พักศูย์ฝึกอบรม-training center"
จะมีหน่วยงานมาประชุม สัมมนากันบ่อยๆ วันนี้ก็มี 1 กลุ่มใหญ่ๆ












เวลา17:30 น. อาหารก็ตั้งสำรับเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้นั่งทานในห้องอาหารVIP(ห้องใหญ่แต่มีพวกเราแค่ 3คน..) ส่วนพวกที่มาประชุมจะทานอีกห้องซึ่งเป็นห้องรวม
อาหารเต็มโต๊ะเลยค่ะ ขอบอกรายการยั่วน้ำลายหน่อยนะคะ..  
ห่อหมกทะเล  ปลาทูทอด มะเขือยาวชุบไข่ทอด ผักสด ผักต้ม น้ำพริกกระปิ  กระดูกหมูตุ๋นเห็ดหอม
และ ซุปมะระกับหมู ผลไม้เป็นสัปปะรด (กับข้าวทานได้ซัก 6 คน เลยมั้งคะ) รายการอาหารทางศูนย์จะจัดทำให้เองไม่ได้มีรายการอาหารให้ ถูกใจพวกเรามากๆค่ะไม่ต้องคิดว่าจะทานอะไรดี แต่บางคนอาจไม่ชอบก็ได้ ระหว่างนั่งทานก็จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยถามตลอดว่า"จะรับอะไรเพิ่มอีกไหม?"...แค่บนโต๊ะเราก็ทานกันไม่หมดแล้วค่ะ









ทานอาหารเสร็จก็ออกไปถ่ายรูป ตรงลานหน้าห้องอาหาร 
จะเห็นพระอาทิตย์ตกดินและอ่างเก็บน้ำบางพระอยู่ไกลๆ...สวยงามมาก




เวลา 18:00 น.ได้เวลาไปชม After Dark แล้วค่ะ ต้องรีบไปสำรองที่นั่งก่อนเผื่อคนเยอะ
ขับรถออกไปที่ด้านหน้าบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยค่ะ จอดรถไว้แล้วจะมีรถพาเราไป
ทากันยุงไว้ด้วยก็ดีนะคะ



เวลา 18:30 น.ก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ ซึ่งจะมีการแสดง 3 ส่วนคือ
1. Transfer to Cat Complex....ชมหมู่เสือ(ในกรง) เรียกว่า หุบเสือ (cat complex)

2. Journey to the Jungle After Dark Show... การแสดงชีวิตสัตว์กลางได้แก่ หมีขอปีนเชือกกินอาหาร  หมูป่าหาอาหาร นากดำน้ำหาอาหาร  เสือดาว เสือขาว เสือโคร่งปีนต้นไม้ ให้อาหารเสือ




และสุดท้าย
3.Animal Night Live :After Dark (7 km)...ขับรถชมสัตว์(เหมือนตอนกลางวัน) แต่ปิดไฟขับรถ (น่ากลัวเหมือนกันค่ะ) ขับไปตามทางและมีไฟส่องสัตว์เป็นจุดๆ จะมีสัตว์ทั้งที่เลี้ยงแบบโล่งแจ้งและเลี้ยงโดยกั้นคอกไว้ดูแล้วได้บรรยากาศว่าเหมือนอยู่ใบป่าดีค่ะ


เวลา 21:00 น.สิ้นสุดการเดินทาง ขับรถกลับที่พัก-นอนหลับฝันดี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น