TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2557/10/26

4.พระราชวังด็อกซูกุง-คลองชองเกชอน-เที่ยวย่านฮงแด

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2557

เวลา 7:00 อาบน้ำแต่งตัว แพ็คกระเป๋าเสร็จรีบลงมาทานอาหารเช้า
วันนี้เที่ยวเกาหลีเป็นวันสุดท้าย คืนนี้ต้องเดินทางกลับแล้วค่ะ



ด้านหน้าโรงแรมเป็นแม่น้ำฮัน (HAN River) ไปเดินเล่นชมวิวได้ค่ะ 
แต่เช้านี้อากาศเย็น...เลยไม่อยากไปรับลมหนาวเพิ่มอีกแล้ว



เวลา 8:00 น.ไปเดินเล่นบริเวณแถวๆพระราชวังเคียงบกกันค่ะ
 



ตรงนี้คือถนนเซจงโร( Sejong-ro street) เป็นถนนสายหลัก ยาวไปจนถึง Gwanghwamun Gate



อนุสาวรีย์แม่ทัพลีซุนชิน (Statue of Admiral Yi Sun-shin)




ระหว่างที่เดินถ่ายรูปก็มีตำรวจเดินมาไล่พวกเราให้ออกจากบริเวณนี้. ตกใจค่ะนึกว่าทำอะไรผิด!!!
แต่สักพักก็เข้าใจ.....เป็นช่วงเวลาเปิดน้ำพุ รอบอนุสาวรีย์ค่ะ. ถ้าออกมาไม่ทันเปียกกันหมดแน่ๆ




พระราชวังเคียงบก ( Gyeongbok Palace )ถือว่าเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุด
และยังมีทำเลที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าเพราะมีภูเขาพูกักซานเป็นฉากหลัง




บริเวณนี้เรียกว่าจตุรัสควางฮวามุน ( Gwanghwamun square). เป็นลานกว้างกลางถนนก่อนถึงประตูเข้าพระราชวัง มักมีการจัดงานบ่อยๆค่ะ ตึกทางซ้ายมือคือ ศูนย์ศิลปะการละครเซจง ( Sejong center)




อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงตั้งโดดเด่นตรงกลางจตุรัส 




เราไม่มีโปรแกรมเข้าไปชมพระราชวังเคียงบกค่ะ เลยเดินเล่นสักพักก็กลับ




เดินย้อนกลับลงมาไปชมคลองชองเกชอนกันค่ะ




ถึงแล้วค่ะ Cheong gye cheon ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของลำคลองทางฝั่งตะวันตก 
ทางด้านขวามือคือชองเกพลาซ่า



มีปฏิมากรรมหอยหลอดขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่น



บริเวณนี้เป็นลานกว้างเรียกว่าจตุรัสชองเก (Cheonggye Square) ตอนนี้ก็มีการจัดงานอยู่ด้วยค่ะ




ด้านบนลำคลองมีน้ำพุและเขื่อนน้ำตก นั่งเล่นได้สบายดีค่ะ



ถ้าตอนกลางคืนจะเปิดไฟสวยไปอีกแบบ




คลองนี้เป็นคลองโบราณมีความยาวร่วม 6 กม.ไหลผ่านใจกลางเมือง สองข้างเป็นห้างดังมากมาย




เป็นแหล่งพักผ่อนกลางกรุงโซลที่คนนิยมมากันมาก น้ำในคลองก็ใสสะอาด 




สองฝั่งเป็นกำแพงหินและต้นไม้ร่มรื่นตลอดแนว มีทางเดินข้ามคลองเป็นระยะ




มีจุดโยนเหรียญอธิษฐานด้วยค่ะ.  โยนไปแล้วไม่ลงตรงกลางเลย






ข้างกำแพงหินจะมีเรื่องราวประวัติความเป็นมาของคลองนี้ที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า600ปี




ตลอดความยาวคลองมีสะพานหินมากถึง 22 อันเลยค่ะ



สามารถเดินขึ้นไปต่อสถานีรถไฟใต้ดินได้หลายจุด



ตอนนี้เวลาประมาณ 9:30 น. ดงฮวาดิวตี้ฟรีเปิดแล้ว แม่ตุ๊กขอเข้าไปซื้อของด้านในนิดนึงก่อนเดินทางต่อ




เวลา 10:30 น. เดินทางมายังพระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)




รีบเดินมาที่ประตูทางเข้าหลักแทฮันมุน ( Daehanmun Gate ) 
กำลังมีการแสดงผลัดเปลี่ยนเวรทหารยามพอดีเลยค่ะ




ทหารทุกคนแต่งตัวแบบสมัยโบราณ เหมือนเราหลุดเข้ามาอยู่ในหนังโบราณเลยค่ะ




การแสดงรอบแรก เวลา 11:00 น. ระหว่างการแสดง จะมีการกั้นเขตห้ามเข้านะคะ ถ่ายภาพได้ห่างๆ








                                                          การแสดงใช้เวลาประมาณ 20 นาที






เมื่อการแสดงจบไปขอถ่ายรูปข้างๆเหล่าทหารได้ค่ะ




ทหารทุกคนรูปร่างสูงใหญ่มาก




Daehanmun Gate เป็นประตูทางเข้าหลักอยู่ตรงข้ามกับ Seoul City Hall




อัตราค่าเข้าชมพระราชวัง




ไม่มีโบชัวร์แจกฟรีนะคะ ต้องซื้อที่ช่องขายตั๋ว




แต่เดินผ่านประตูเข้ามาก็มีแผนที่พระราชวังให้ดูค่ะ






จากแผนที่ ให้เดินตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ






สองข้างทางใบแปะก๊วยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วค่ะ




ถึงแล้วค่ะ เดินเข้าไปด้านในเลย




พระตำหนัก Hamnyeongieon and Deokhongieon




พระที่นั่งชุงวาจอน  (Junghwajeon )



เดินถ่ายรูปรอบๆพระที่นั่ง



ด็อกซูกุง มีความหมายว่า พระราชวังแห่งอายุยืนยาวและมั่นคง



พระราชวังนี้เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดจากสมัยราชวงศ์โชซอน







ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเกาหลีดั้งเดิม



พระราชวังนี้อยู่ท่ามกลางอาคารสูงรูปแบบทันสมัยใจกลางกรุงโซล







Jeukjodang Hall




ที่นี่เป็นพระราชวังแห่งเดียวที่มีอาคารรูปแบบตะวันตกอยู่ด้วย



เรียกว่าห้องโถงซกโชจอน ( Seokjojeon )




เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลวง ซึ่งเก็บสิ่งของเครื่องใช้ในพระราชวังสมัยโชซอน




พระราชวังนี้มีขนาดไม่ใหญ่ใช้เวลาไม่นานก็เดินจนครบรอบแล้วค่ะ





ออกไปเดินรอบนอกพระราชวังค่ะ




มีร้านขายขนมและน้ำด้วยค่ะนั่งพักได้ ตรงนี้มี  Application ของพระราชวังให้ดาวน์โหลดได้นะคะ




เต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย(บริเวณนี้ยังไม่เปลี่ยนสีค่ะ)




หอระฆังกวางเมียงมุน ( Gwangmyeonmun )




พระราชวังนี้มีชื่อเสียงในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยนะคะ



พวกเราเลยเดินถ่ายภาพตามมุมสวยๆที่ต้นแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลือง





ทางด้านทิศใต้นอกพระราชวังมีถนนเลียบกำแพงหิน ( Stonewall Street )
มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและความโรแมนติก เพราะสองข้างทางจะมีต้นแปะก๊วยปลูกเป็นแนวยาว
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเต็มไปด้วยสีเหลืองทั่วทั้งถนนเลยค่ะ




เวลา 13:00 น. เดินทางมาที่ย่านฮงแด
ทานอาหารกลางวันกันก่อนค่ะ มื้อนี้เป็น BBQ BUFFET ซีฟู๊ดปิ้งย่างสไตล์เกาหลี





มีอาหารให้เลือกเยอะมากๆค่ะ ทานกันไม่ไหว ถ้าเป็นมื้อเย็นน่าจะดีกว่านี้




ทานเสร็จก็เดินเล่นกันต่อค่ะ ย่านนี้จะอยู่ใกล้ ม.ฮงอิก จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าของวัยรุ่นเกาหลี




มีร้านไดโซะเกาหลีด้วยค่ะ 




ร้านใหญ่มาก 3 ชั้น ที่นี่มีเครื่องสำอางค์และครีมต่างๆของเกาหลีมีให้เลือกมากมายเลยค่ะ





ย่านฮงแดจะมีสินค้าแบบวัยรุ่นขายเยอะมากไม่เหมือนที่เมียงดง




พิพิธภัณฑ์ 3 มิติ  ( Trick eye Museum)




ลงไปเดินเล่นที่ชั้นใต้ดินเลยค่ะ






บริเวณด้านนอกมีมุมให้ถ่ายรูปได้ฟรีค่ะ







Santorini Seoul Gallery






เดินเล่นถ่ายรูป(ฟรี). ที่บริเวณชั้นล่างได้ค่ะ









เวลา 16:00 น.ได้เวลาเดินทางไปสนามบินแล้วค่ะ. มะปรางดีใจจะได้กลับบ้านแล้ว




เวลา 18:00 น.เดินทางมาถึงสนามบินอินชอน




เช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จ คุณป๋าต้องไปจัดการขอคืนภาษีที่ตู้ tax refund ในสนามบิน (เสียเวลาพอสมควร)  มื้อเย็นเลยทานอาหารง่ายๆค่ะ




เวลา20:00น.ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องเดินทางกลับเมืองไทย
เวลา 24:00 น.ถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ คืนนี้เราพักที่ รร.อมารี ดอนเมืองค่ะ




เวลา 8:00 น.ทานอาหารเช้าที่ รร.เสร็จก็เดินลากกระเป๋ามาเช็คอินที่สนามบินดอนเมืองได้เลย
เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย