TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2559/10/03

3.ไร่ชาฉุยฟง-มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง-วัดห้วยปลากั้ง

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2559 เวลา 11:00 น.

ลงจากดอยตุง ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ตรงไปทาง อ.แม่จัน จนถึงแยกแม่สลองก็เลี้ยวขวาเข้าไปจากถนนใหญ่ประมาณ 10 กม.สังเกตุป้าย "ไร่ชาฉุยฟง" เส้นทางลาดยางตลอดขับสบายค่ะ



ผ่านไร่สับปะรดนางแล 




ถึงแล้วค่ะ ไร่ชาฉุยฟง CHOUI FONG
คำว่า ฉุยฟง ในภาษาจีน หมายถึง ภูเขาที่เขียวชะอุ่ม




ขับรถขึ้นไปด้านบน มีที่จอดรถกว้างขวาง ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วเริ่มหิวไปทานอาหารกันก่อนค่ะ



ข้างนอกวิวสวยแต่ตอนนี้แดดแรงมาก พวกเราเลยเข้าไปนั่งด้านในค่ะ
สั่งอาหารมา 5 อย่าง สปาเกตตี้ ผัดหมี่เจ (พนักงานแนะนำว่าอร่อย)



ยำยอดใบชาทอดกรอบ ปีกไก่ราดซอส หมั่นโถชาเขียว
อาหารทุกเมนูจะมียอดอ่อนใบชาเป็นส่วนประกอบ



พวกเราเน้นอาหารค่ะ เพราะไม่ดื่มชาเขียวและไม่ทานเค้กชาเขียว




ทานอาหารเสร็จก็ออกมาชมไร่ชา




ไร่ชาฉุยฟงเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดีของบริษัท ฉุยฟงที จำกัด 
ซึ่งเป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย




ไร่ชาฉุยฟง ปัจจุบันมี 2 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านพญาไพร ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง
และ อำเภอแม่จัน จังหวัด เชียงราย



พวกเรามาไร่ที่ที่เพิ่งเปิดล่าสุดและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ตั้งอยู่ใน อ.แม่จัน เชียงราย





 ไร่ชานี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่  




บรรยากาศของไร่ชาที่กว้างใหญ่ ปลูกโค้งวนไปตามไหล่เขา



ยอดอ่อนใบชา




เดินถ่ายภาพและชมความงามไร่ชาได้หลายจุด




เนินเขาด้านหลังเป็นโซนที่เพิ่งเปิดใหม่ มีเครื่องดื่มและเบเกอรี่ให้บริการ



ขับรถข้ามมาที่โซนใหม่กันค่ะ ที่เห็นในรูปคือโซนแรกที่เราเพิ่งไปถ่ายรูปและทานอาหารค่ะ



วิวไร่ชาตรงนี้ไม่สวยเท่าโซนแรก แต่ลานถ่ายรูปกว้างขวางดีค่ะ




เมฆฝนเริ่มตั้งเค้าดำมาเลย ฝนใกล้ตกแล้วค่ะ



รีบเก็บภาพแล้วออกเดินทางกลับค่ะ พอขึ้นรถฝนก็ตกหนักทันที



โชคดีที่ได้เก็บภาพและเดินเล่นในไร่ชาก่อนฝนตก



ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งหน้าไป อ.เมืองเชียงราย ฝนยังตกหนักตลอด 
คุณป๋าเลยพาแวะ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พอเห็นป้ายทางเข้ามหาวิทยาลัยก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ




ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธรแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง



เข้าไปชมด้านในกันค่ะ



เสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาท พร้อมแผ่นพับข้อมูล




The Sirindhorn Chinese Language and Culture Center



วันฝนตก ไม่มีคนเลยค่ะ เดินเล่นสบาย




ด้านในตกแต่งสวยมากๆค่ะ เหมือนเราเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านคนจีนเลย



ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนและมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง




สถาปัตยกรรมแบบจีน ตรงกลางเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ 



รัฐบาลประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งใจสร้างศูนย์ฯนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 100 ปี
แห่งวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปี พ.ศ.2543




มีการตกแต่งสวนด้วยต้นไม้และดอกไม้หลายชนิด ร่มรื่นเย็นสบาย





มีศาลาริมน้ำให้นั่งเล่นหลายหลัง




ศูนย์ฯแห่งนี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายแห่งไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างคนไทยและคนจีน





ห้องสมุดสถาบันขงจื่อ




กู่เจิง เครื่องดนตรีแบบโบราณของจีน เป็นเครื่องสายใช้มือดีด




วัสดุหลายอย่างนำเข้ามาจากประเทศจีน เช่น กระเบื้องหลังคา สิงโตหินอ่อนแกะสลัก





เดินเล่นประมาณชั่วโมงกว่าๆฝนก็หยุดตกแล้วค่ะ



เวลา  15:00น. ขับรถออกมาทางด้านหน้าของมหาวิทยาลัย 
ม.แม่ฟ้าหลวงขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยสวยที่สุดในประเทศไทย โอบล้อมไปด้วยภูเขา




ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2541 เพิ่งมีการจัดงานครบรอบ 18 ปี



ขับรถผ่านโรงพยาบาล มีป้ายบอกทางไปวิหารพระเจ้าล้านทอง ขับขึ้นไปชมวิวบนภูเขากันค่ะ




วิหารพระเจ้าล้านทอง
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงเจริญพระชนมายุ50พรรษา
เป็นวิหารแบบเปิดโล่งไม่มีบานประตู ที่ปลายหลังคาแต่ละจุดมีลักษณะเหมือนหูช้าง



เสาทุกต้นในวิหารทาสีขาวตรงโคนปิดทองลวดลายสวยงาม



พระเจ้าล้านทองเป็นพระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง



ในวิหารโล่งและเย็นเราสามารถนั่งชมวิวสวยๆจากในวิหารได้เลยค่ะ



สังเกตุใต้ชายคาจะรองรับด้วย คันทวย หรือนาคาตัน ซึ่งแกะสลักไม้สักเป็นรูปพญานาคปิดทอง



ออกมาชมวิวด้านหน้าวิหาร




สนามหญ้าเขียวสด เมฆลอยต่ำสวยมากๆค่ะ




เวลา 16:00น. เดินทางกลับเข้าเมืองเชียงราย ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำกก ไปวัดห้วยปลากั้งกันค่ะ
ที่ตั้ง 553 ม.3 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย วัดตั้งอยู่บนเนิน มองเห็นเจ้าแม่กวนอิมโดดเด่นมากค่ะ




รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวองค์ใหญ่ตั้งอยู่บนเนินหญ้าสีเขียว เรียกว่า เนินพระโพธิสัตว์




ข้างๆกำลังก่อสร้างพระอุโบสถสีขาว 






                                                      ลวดลายปูนปั้นงดงามคล้ายวัดร่องขุ่น




สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัดคือ "พบโชคธรรมเจดีย์"



เป็นเจดีย์สูง 9 ชั้น ทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดง





มีรูปปั้นมังกรสีทองทอดยาวสองข้างบันได





มีเนินเขารายล้อมอยู่รอบๆ มองเห็นวิวสวยงาม



เมฆลอยต่ำ เหมือนเรายืนบนเมฆเลยค่ะ



พระอุโบสถอยู่ข้างๆเจดีย์




เรามาเดินชมวิวรอบๆพระเจดีย์กันค่ะ




รอบๆเจดีย์มีพระธาตุจำลองประจำปีเกิดให้ทุกคนได้สักการะบูชา





เจ้าแม่กวนอิมมีความสูง 69 เมตร ขึ้นไปด้านด้วยลิฟต์ 23 ชั้น



ด้านล่างที่เราเห็นคือ ภัตตาคารพบโชค เป็นโรงอาหารให้กินฟรีค่ะ



เข้าไปด้านในเจดีย์กันค่ะ



ชั้นที่ 1 
เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพรขนาดใหญ่ แกะสลักด้วยไม้จันทน์หอมที่นำมาจาก จีน อินเดีย พม่า



พระอาจารย์พบโชค ดิสสะวังโส เป็นเจ้าอาวาส




ชั้นที่ 2 มีเจ้าแม่กวนอิมปางประทับยืนหลายองค์




ชั้นที่ 3 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับนั่ง




ชั้นที่ 4 หลวงพ่อโสธรจำลอง
ชั้นที่ 5 เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ
ชั้นที่ 6 หลวงพ่อโต พรหมรังสี
ชั้นที่ 7 พระพุทธรูปปางนาคปรก
ชั้นที่ 8 พระสังกัจจายน์
ชั้นที่ 9 พระอิศวร
พวกเราขึ้นไปแค่ชั้น 4 ก็หมดแรงแล้วค่ะ



เวลา 17:00 น. เดินทางเข้าที่พักในตัวเมืองเชียงราย เก็บของแล้วก็ออกมาเดินเล่นในเมืองค่ะ




วัดพระแก้ว แต่เดิมมีชื่อว่า วัดป่าเยี้ย เป็นจุดที่ค้นพบพระแก้วมรกต 
และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตเป็นเวลา 45 ปี
ด้านหน้ามีรูปปั้นพ่อขุนเม็งราย



หอพระหยก เป็นอาคารทรงล้านนาโบราณ



พระพุทธรัตนกร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล หรือพระหยกเขียงราย




เป็นพระพุทธรูปหยกที่สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุ
ครบ 90 พรรษา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2533



วันที่ 19 ต.ค.2534 ชาวเชียงรายได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่หอพระ วัดพระแก้ว
 เรียกว่า พระหยกเชียงราย








เจดีย์วัดพระแก้ว
พ.ศ.1977 ได้เกิดฟ้าผ่าลงองค์พระเจดีย์ พังทลายพบพระแก้วมรกตซ่อนในพระเจดีย์
หลังจากนั้นได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานที่ ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรีและที่สุดท้ายคือ วัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่เป็นเจดีย์หุ้มทองเหลืองอร่ามทั้งองค์



พระอุโบสถวัดพระแก้ว อยู่ด้านหน้าองค์พระเจดีย์



ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของ พระเจ้าล้านทอง
เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงรายเคารพนับถือเป็นอันมาก



วัดพระสิงห์เชียงราย พระอารามหลวง
เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงราย ในอดีตเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์






พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทยสมัยเชียงแสน โครงสร้างทำด้วยไม้เนื้อแข็ง





พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง เนื้อสำริดปิดทอง ปางมารวิชัย



หอพระสิงห์ ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์(พระสิงห์)จำลอง ศิลปะเชียงแสนปางมารวิชัย
พวกเราไม่ได้เข้าไปไหว้เพราะปิดแล้วค่ะ




วัดกลางเวียง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย
วนหาที่จอดรถอยู่นานเลยเดินเข้าทางด้านหลังวัดค่ะ




พระธาตุช้างค้ำตั้งอยู่ด้านหลังวิหาร




พระธาตุมีรูปแบบร่วมสมัย ประดับซุ้มด้วยพระพุทธรูปจำนวนมาก ฐานเจดีย์ประดับด้วยช้างทรงเครื่อง





ด้านหลังวัดมีบ่อน้ำโบราณ



วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงรายจึงมีการสถาปนาสะดือเวียง หรือเสาหลักเมือง



ปัจจุบันเสาหลักเมืองเก่าได้ล้มไปนานแล้ว 
ในปี พ.ศ.2535 จึงมีการสร้างเสาหลักเมืองขึ้นมาใหม่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปทรงฟักทองยอดแหลม



วิหารวัดกลางเวียง เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์สวยงามมากๆค่ะ



ด้านในประดิษฐานพระประธาน ลงรักปิดทองเหลืองอร่าม



เวลา 18:30 น.หาที่จอดรถแล้วไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินเชียงรายกันค่ะ
เดินผ่านโบสถ์คริสต์หลังใหญ่มาก




เย็นนี้ทานอาหารที่ ร้านภูแล ร้านกว้างขวางนั่งสบายไม่ค่อยมีคนเพราะวันนี้มีถนนคนเดินค่ะ




ทานอาหารเสร็จก็ไปเดินย่อยอาหารกันต่อ




ด้านในสวนตุงเปิดเพลงในคนเข้าไปร่วมรำวงได้ค่ะ




เวลา 20:00 น. ไปดูหอนาฬิกาเปลี่ยนสีกันค่ะ







ประมาณ 10 นาทีก็หยุดเปลี่ยนสีแล้วค่ะ



วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2559
เช็คเอ้าท์เตรียมออกเดินทางไปขึ้นเครื่องกลับบ้านค่ะ




ลาก่อนเชียงราย