TUKEMD

__TUKEMD__ชื่อบ้าน อ่านว่า ตุ๊ก-เอ็ม-ดี นะจ๊ะ เป็นชื่อในเน็ตของแม่ตุ๊กเองค่ะ

บ้านหลังน้อย หลังนี้เป็นของแม่ตุ๊ก,น้องมะปราง และ คุณป๋า

เป็นบล็อกเพื่อบันทึกความสุข ความทรงจำ ในการท่องเที่ยวที่ต่างๆของครอบครัวเราค่ะ



2560/01/03

3.โฮจิมินห์ซิตี้:City Hall,Opera House,Thien Hau Temple,War Museum,Notre Dame Cathedral,Central Post Office

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2560

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในเวียดนามแล้วค่ะ ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นจากระเบียงห้องพัก
ตึกทางซ้ายมือมีชื่อว่าตึก BITEXCO เป็นตึกที่สูงที่สุดในโฮจิมินห์ซิตี้ 
นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 49




Bitexco Financial Tower มีความสูง 262 เมตร มีทั้งหมด 71 ชั้น ชั้นที่ 49 เรียกว่า Saigon Skydeck
 เป็นกระจกใสมองเห็นวิวโฮจิมินห์ซิตี้ได้ 360 องศา ค่าขึ้นไปชมวิวคนละ สองแสนดอง



เวลา 7:30 น.อาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานอาหารที่ห้องอาหารค่ะ



เมื่อคืนเราพักที่ Thien Tung Hotel ทำเลของโรงแรมดีมากค่ะ สามารถเดินเล่นในเมืองได้สะดวก




เวลา 8:00 น.คุณป๋าพาออกมาเดินเล่น หน้าโรงแรมทีเราพักคือตลาดเบนถัน(Ben Thanh Market)
เป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งของเมืองนี้เลยค่ะ คล้ายตลาดจตุจักรที่เมืองไทย



บริเวณนี้เป็นแยกขนาดใหญ่ มีรถมาจากทุกทิศทางเวลาเดินข้ามถนนต้องระวังอย่างมาก




เช้านี้อากาศยังไม่ร้อน พวกเราเลยเดินเล่นชมตึกสวยๆของเมืองนี้กันก่อนค่ะ




ตึกนี้เหมือนเป็นสถานที่ราชการ ด้านในร่มรื่นมากและเปิดประตูไว้ด้วย เข้าไปชมด้านในกันค่ะ




General Science Library 
ด้านในห้องสมุดประชาชนโฮจิมินห์ มีคนนั่งอ่านหนังสือกันหลายคน



เดินเล่นถ่ายรูปรอบๆห้องสมุด






ตรงข้ามห้องสมุดมีสวนหย่อมเล็กๆ




เดินต่อมาเรื่อยๆจนเห็นรั้วทางขวามือที่มีป้ายรูปภาพติดเป็นแนวยาว 




MUSEUM OF HO CHI MINH CITY



เสียค่าเข้าชมคนละ 15,000 VND หรือ 1 USD
เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00-17:00 น.



อาคารสีขาวทรงยุโรปสวยงาม สร้างขึ้นช่วง ค.ศ.1985-1990 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงท่านโฮจิมินห์



ด้านหน้ามีรถโบราณให้ถ่ายรูปได้ค่ะ






รถเก่าที่ใช้ในสงคราม





ด้านข้างอาคารมีเครื่องบินรบอยู่หลายลำ







เครื่องบินรบแต่ละลำมีป้ายบรรยายภาษาอังกฤษด้วยค่ะ




รถถัง



เข้าไปชมด้านในกันค่ะ ตัวอาคารค่อนข้างเก่า ไม่มีแอร์ แต่มีหน้าต่างและประตูหลายบาน




ด้านในแยกเป็นห้องหลายห้อง มีป้ายภาษาอังกฤษให้อ่านได้ค่ะ



แต่ละห้องแสดงถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ข้าวของเครื่องใช้หลายอย่าง
ต้องใช้เวลาสักครึ่งวันกว่าจะเดินชมจนหมด





พวกเราใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็ออกมาเดินเล่นกันต่อค่ะ
บริเวณนี้เหมือนเป็นศูนย์กลางของเมือง ถนนและทางเดินสะอาดสวยงามมากๆค่ะ





HO CHI MINH CITY HALL ศาลากลางโฮจิมินห์



อาคารสีเหลืองครีมสไตล์โคโลเนียล ฝรั่งเศส
เนื่องจากตึกมีขนาดใหญ่มาก พวกเราจึงต้องข้ามถนน ไปถ่ายภาพอีกฝั่งถนนจึงจะเก็บรูปได้ทั้งอาคาร



ด้านตรงข้ามเป็นสวนขนาดใหญ่




ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ



แดดจัดและเริ่มร้อนมาก




ด้านหลังนี้คือรูปปั้นอดีตผู้นำประเทศเวียดนาม




ท่านโฮจิมินห์






บริเวณนี้เรียกว่าไซง่อนสแควร์ Saigon Square
ตอนพวกเรามาถึงเค้าเพิ่งปิดน้ำพุที่พุ่งจากพื้นไปค่ะ ถ่ายรูปมาไม่ทัน




บริเวณนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญและเป็นย่านการค้า การท่องเที่ยวของเมือง 
เพราะมีศูนย์การค้า โรงแรมหรูๆอยู่โดยรอบ ที่สำคัญกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ด้วยค่ะ




Saigon Opera House โรงละครโอเปร่า



โรงละครเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ตัวอาคารสวยงามแบบฝรั่งเศส



ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า โรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ ( Municiple Theatre of Ho Chi Minh City)






ปัจจุบันยังเป็นสถานที่สำหรับจัดการแสดงและคอนเสิร์ตต่างๆ




ร้านสินค้าสุดหรูจากฝรั่งเศส



พวกเราใช้เวลาเดินเล่นชมเมืองกันประมาณ 3 ชม.แดดเริ่มจัดและเริ่มเหนื่อยแล้วค่ะ 
เดินย้อนกลับที่พักทางเดิม





ร้านตัดชุดประจำชาติเวียดนาม




แวะเข้าไปซื้อของฝากในตลาดเบนถั่นก่อนค่ะ



เดินผ่านตึก BITEXCO ระยะไกลๆ



เวลา 12:00 น.ไปทานอาหารเที่ยง แบบบุฟเฟต์ที่ Liberty hotelค่ะ



บุฟเฟต์อยู่ที่ชั้น 9 ของโรงแรม




อาหารเยอะมากๆค่ะ มีทั้งอาหารเวียดนาม อาหารไทย อาหารจีน ซีฟู้ด ปิ้งย่าง 




เวลา 13:00 น.ไปชมวัดจีนในย่านไชน่าทาวน์ ชื่อวัดเทียนเฮา Thien Hau Temple



วัดนี้สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยชาวพุทธกวางตุ้งสร้างอุทิศให้กับแม่พระผู้คุ้มครองชาวเรือ
หรือเทพีเทียนหาว




บนหลังคาวัดมีรูปปั้นตุ๊กตากระเบื้องจำนวนมาก



รายชื่อผู้ร่วมบริจาคทำบุญให้วัด





สาวสวยเวียดนามในชุดแดง




นมัสการเจ้าแม่เทียนเฮาด้วยธูปวง






ธูปวงเมื่อจุดแล้วนำขึ้นไปห้อยด้านบนจะอยู่ได้นานถึง 7 วัน



ด้านในวัดมีเทพเจ้าหลายองค์





ในวัดนี้ยังมีของเก่าสะสมอยู่ในตู้กระจกให้ชมด้วยค่ะ




ในวัดอบอวนไปด้วยควันธูป



วัดนี้อยู่ในเขตไชน่าทาวน์จึงมีบริเวณไม่มากตัววัดอยู่ติดกับตึกที่อยู่อาศัยเลยค่ะ มีทางเดินแคบๆ



เวลา 14:00 น.เดินทางต่อไปที่ พิพิธภัณฑ์สงคราม




WAR REMNANTS MUSEUM
เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.1975 ในตอนแรกใช้ชื่อว่า Exhibition House for US and Puppet crime



ด้านหน้าจัดแสดงเครื่องบินรบชนิดต่างๆ



มีรายละเอียดและประวัติความเป็นมาทุกลำ



ตกทอดมาตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม มีทั้งของจีน และสหรัฐอเมริกา







ด้านหลังพิพิธภัณฑ์จัดแสดงที่คุมขังและทรมานนักโทษ



Tiger cages เอาไว้คุมขังและทรมานนักโทษทางการเมือง




ดูของจริงแล้วมาดูบรรยายรูปภาพ หดหู่เศร้าใจมากๆค่ะ




เครื่องตัดคอ Guillotine (เห็นรูปแล้วน่ากลัวมาก)




เข้าไปชมด้านในพิพิธภัณฑ์กันค่ะ
สงครามเวียดนามอยู่ในช่วง ค.ศ.1957-1975 เป็นสงครามระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้
โดยเวียดนามเหนือได้รับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซีย ส่วนเวียดนามใต้ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา




ชั้นล่างจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความช่วยเหลือจากนานาชาติในสงครามเวียดนาม



ทางอเมริกาได้ส่งเหรียญทหารผ่านศึกจำนวน 8 เหรียญมาให้เวียดนามตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 1990




ขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็มีห้องต่างๆหลายห้อง




ห้องนี้แสดงถึงผลกระทบของฝนเหลือง ที่เกิดจากสารเคมีชื่อ Agent Orange ที่มีผลต่อชาวเวียดนาม



จดหมายที่ชาวเวียดนามเขียนถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงผลกระทบที่ได้รับการสารพิษ



รูปภาพแสดงถึงความพิการของเด็กๆชาวเวียดนามจากสารเคมีดังกล่าว




Agent Orange คือสารเคมี Digoxin



ห้องแสดงอาวุธหลากหลายชนิดในสงคราม




ห้องจัดแสดงภาพถ่ายกว่า 250 ภาพ โดยช่างภาพชาวต่างชาติที่เกาะติดอยู่ในสงครามเวียดนาม




ชั้นสามมีห้องฉายวีดีโอของเหตุการณ์สงครามเวียดนาม



พิพิธภัณฑ์นี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะชาวยุโรปและอเมริกา



เวลา 14:30 น.เดินทางมาถึงโบสถ์นอร์ธเธอดาม (Notre Dame Cathedral) 



เป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ วิหารแห่งแม่พระผู้ปฎิสนธินิรมล 
(Basilica of Our Lady of the Immaculate Conception )



โบสถ์คาทอลิคที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นหนึ่งในมรดกของเมืองจากยุคอาณานิคมฝรั่งเศส
หอระฆังคู่มีความสูง 60 เมตร ด้านหน้ามีรูปปั้นพระแม่มารี 
มีเรื่องเล่าว่าในปี ค.ศ.2005 รูปปั้นนี้หลั่งน้ำตาออกมาหลายวัน



โบสถ์นี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1880 ใช้เวลาประมาณ 5 ปีจึงสร้างเสร็จ
 เพราะวัสดุที่ใช้สร้างอาคารทั้งหมดนำมาจากฝรั่งเศส



ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน มีการจัดพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์



ตัวโบสถ์มีสีส้มสวยงามโดดเด่น




ด้านตรงข้ามโบสถ์คือ สำนักงานไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน (Central Post Office)



ตัวอาคารสีเหลืองสดใสมากๆค่ะ



ข้ามถนนไปเยี่ยมชมกันค่ะ



อาคารนี้ออกแบบโดย Gustave Eiffel สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1891



ด้านในใหญ่อลังการด้วยเพดานกระจกโค้งยาวตลอดแนวโถงของอาคาร รองรับด้วยเสาเหล็กสีเขียว





สุดโถงมีรูปวาดท่านโฮจิมินห์ขนาดใหญ่




พื้นของอาคารปูด้วยกระเบื้องลายสีสวยแวว มีตู้โทรศัพท์ประมาณ 10 ตู้ยังใช้โทรไปต่างประเทศได้ค่ะ
สองข้างของอาคารเป็นร้านขายของฝากและของที่ระลึก




ที่ผนังทั้งสองด้านของโถงอาคารมีภาพวาดแผนที่ทางทะเลประเทศเวียดนามโบราณขนาดใหญ่






ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและถ่ายรูปมากมายทั้งวัน




เดินเล่นชมเมืองโฮจิมินห์ทั้งวันได้เวลาเดินทางกลับบ้านแล้วค่ะ



เวลา 17:00 น.ออกเดินทางกลับเมืองไทยโดยสายการบิน Vietnam Airline เที่ยวบินที่ VN603
ทานอาหารเย็นบนเครื่องบิน ถึงเมืองไทยเวลา 18:30 น.(ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.)